หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ร้องไห้ตาบวมกันมาบ้าง โดยเฉพาะในวันที่ต้องเผชิญกับอารมณ์หนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้าหรือความสุข เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็พบว่าดวงตาบวมจนแทบจะลืมไม่ขึ้น ปัญหานี้สร้างความกังวลใจและทำให้ขาดความมั่นใจได้ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยว่าอาการร้องไห้ตาบวมเกิดจากอะไร และมีวิธีลดบวมแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างไรบ้าง
ร้องไห้ตาบวมเกิดจากอะไร
อาการร้องไห้ตาบวมเกิดจากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกันในกระบวนการทำงานของร่างกายเมื่อเราหลั่งน้ำตาออกมา
- เมื่อเราร้องไห้ตาบวมเกิดจากน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมากจะถูกเนื้อเยื่อรอบดวงตาดูดซับไว้ ทำให้บริเวณรอบดวงตาเกิดการบวมน้ำ
- การที่เราร้องไห้และมีการขยี้ตาบ่อย ๆ จะกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยบริเวณรอบดวงตาขยายตัว ทำให้เลือดและของเหลวไหลมาคั่งอยู่บริเวณดังกล่าวมากขึ้น
- น้ำตาที่เกิดจากอารมณ์หรือ Emotional Tears มีส่วนประกอบของฮอร์โมนและโปรตีนบางชนิดที่ทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้บริเวณรอบดวงตาบวมมากขึ้น
ร้องไห้ตาบวมอาการเป็นอย่างไร
อาการร้องไห้ตาบวม โดยทั่วไปคือการที่เปลือกตาและถุงใต้ตาบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจมีลักษณะเป็นถุงน้ำตาที่พองโต ทำให้ดวงตาดูเล็กลงหรือตาปรือ บางครั้งอาจมีอาการแดงและระคายเคืองร่วมด้วย หากมีการขยี้ตาบ่อย ๆ ผิวรอบดวงตาอาจเกิดการอักเสบได้อีกด้วย
7 วิธีลดอาการร้องไห้ตาบวมให้ตากลับมาสดใส
เมื่อเกิดอาการร้องไห้ตาบวม และต้องการให้ดวงตากลับมาสดใสอย่างเร่งด่วน มีหลายวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ มาดูกันว่ามีวิธีไหนที่น่าสนใจบ้าง
1. ใช้น้ำเย็นประคบตา
การใช้น้ำเย็นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและได้ผลดีที่สุด โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นจัด บิดให้หมาดแล้วนำมาประคบบนเปลือกตาและรอบดวงตาประมาณ 10-15 นาที ความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ทำให้เลือดและของเหลวที่คั่งค้างอยู่บริเวณนั้นไหลเวียนได้ดีขึ้น อาการบวมจึงลดลงอย่างรวดเร็ว
2. ใช้ช้อนเย็นประคบตา
หากต้องการวิธีที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น การใช้ช้อนสเตนเลส 2-4 คันแช่ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งประมาณ 10-15 นาที แล้วนำมาวางทาบบนเปลือกตาและใต้ตาเป็นวิธีที่ได้ผลดี ความเย็นจากโลหะจะช่วยลดอาการบวมได้เทียบเท่ากับการใช้น้ำแข็ง แต่มีความปลอดภัยกว่าเพราะไม่ต้องกังวลว่าผิวจะสัมผัสกับความเย็นโดยตรง
3. ประคบตาด้วยแตงกวา
แตงกวาเป็นตัวช่วยจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการลดการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น เพียงนำแตงกวาสดมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ แช่ในตู้เย็นให้เย็นจัด จากนั้นนำมาวางบนเปลือกตาประมาณ 15-20 นาที นอกจากจะช่วยลดอาการร้องไห้ตาบวมแล้ว วิตามินอีในแตงกวายังช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาให้เต่งตึงขึ้นอีกด้วย
4. ดื่มน้ำให้มาก ๆ
บางครั้งอาการบวมน้ำบริเวณรอบดวงตาอาจเกิดจากภาวะร่างกายขาดน้ำ การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายขับของเหลวส่วนเกินออกไปได้ และช่วยให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้ลดโอกาสการเกิดอาการบวมได้จากภายใน
5. นอนยกหัวสูง
การนอนราบจะทำให้ของเหลวไหลมาสะสมบริเวณใบหน้าและรอบดวงตา ทำให้ร้องไห้ตาบวมในช่วงเช้า การใช้หมอนหนุนให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวเล็กน้อยจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดการคั่งของของเหลวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำร่วมกับการนอนหลับให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
6. ใช้ถุงชาประคบตา
ชาเขียวและชาคาโมมายล์มีสารที่ช่วยลดการอักเสบได้ดี วิธีทำคือชงถุงชาในน้ำร้อนแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น หรือนำไปแช่ในตู้เย็น จากนั้นนำมาวางบนเปลือกตาที่บวมประมาณ 10-15 นาที สารในชาจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดอาการบวมอักเสบ ทำให้ดวงตาดูสดชื่นขึ้น
7. นวดรอบดวงตาเบา ๆ
การนวดบริเวณรอบดวงตาอย่างถูกวิธีจะช่วยระบายของเหลวที่คั่งค้างได้ โดยใช้นิ้วนางนวดเป็นวงกลมเบา ๆ จากหัวตาไปหางตา และวนลงมาที่ใต้ตา การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลือง แต่ต้องระวังไม่ใช้แรงมากเกินไป เพราะผิวรอบดวงตาเป็นผิวที่บอบบางและอาจเกิดการระคายเคืองได้
สรุปบทความ
อาการร้องไห้ตาบวมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่บ้านอย่างการประคบเย็น ดื่มน้ำ หรือการนวดเบา ๆ แต่หากปัญหาดวงตาของคุณไม่ได้เกิดจากการร้องไห้ เช่น มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตก หรือตาชั้นเดียว ที่ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส หรือมีปัญหาร่องน้ำตา และเบ้าตาลึก ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุ ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขด้วยเทคนิคทางการแพทย์เฉพาะทาง เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงจุดและถาวร
สำหรับผู้ที่มองหาคลินิกทำตาที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อแก้ตา หรือทำตาสองชั้น ให้ดวงตากลับมาสวยงามและสดใสอีกครั้ง KOA Clinic พร้อมให้คำปรึกษาโดยจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างคุณหมอกร ซึ่งมีประสบการณ์มากมายทั้งในเคสทำใหม่และเคสแก้ไขที่ยุ่งยาก คุณหมอมีความตั้งใจที่จะมอบดวงตาที่สวยงามและใช้งานได้ดีให้กับทุกคน เพื่อให้คุณกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งในทุก ๆ วัน
