
คุณเคยรู้สึกไหมว่าดวงตาของคุณดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ทั้งที่จริงๆ แล้วคุณตื่นตัวเต็มที่? อาการ “ตาปรือ” หรือ “ตาง่วง” เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อทั้งการมองเห็นและบุคลิกภาพ ทำให้ใบหน้าดูอิดโรย ไม่สดใส และอาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่มีอาการนี้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เกิดตาปรือ ตาง่วงนอน และวิธีการแก้ไขที่ตรงจุด เพื่อให้คุณกลับมามีดวงตาที่สดใสอีกครั้ง
ลักษณะตาปรือ ตาง่วงนอน เป็นอย่างไร?
ตาปรือ หรือตาง่วงนอน คือภาวะที่เปลือกตาบนหย่อนคล้อยหรือตกลงมาปิดตาดำบางส่วน ทำให้ดวงตาดูไม่เปิดกว้าง เหมือนกับคนที่กำลังง่วงนอนหรืออ่อนเพลีย โดยปกติแล้ว ขอบตาบนควรเปิดเผยตาดำได้เกือบเต็มวงกลม แต่สำหรับคนที่มีอาการตาปรือ ขอบตาบนจะปิดตาดำลงมามากกว่า 2 มิลลิเมตร ทำให้มองเห็นตาดำได้ไม่เต็มที่ เราจึงเห็นดวงตาที่ดูเล็กลง ไม่สดชื่น และส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอิดโรย ไม่สดใส แก่กว่าวัย ซึ่งอาการนี้อาจพบได้ทั้งสองข้างหรือเพียงข้างเดียวก็ได้
ตาปรือ ตาง่วง เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?
อาการตาปรือ ตาง่วงนอน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุก็มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน การวินิจฉัยสาเหตุของตาปรือจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม โดยสาเหตุหลักๆ ของการเกิดตาปรือ มีดังนี้
1. พันธุกรรม
ตาปรือบางกรณีอาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ซึ่งสามารถพบได้ตั้งแต่เด็ก หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นตาปรือ ก็มีโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดลักษณะนี้มา เด็กที่มีอาการตาปรือจากพันธุกรรมอาจมีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นตาขี้เกียจ (Amblyopia) ในภายหลัง เนื่องจากสมองไม่ได้รับการกระตุ้นจากการมองเห็นอย่างเต็มที่ ส่งผลให้การมองเห็นแย่ลงได้ จึงควรได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วโดยผู้เชี่ยวชาญ
2. กล้ามเนื้อยกเปลือกตาเสื่อมตามวัย
เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อที่ใช้ในการยกเปลือกตาจะเกิดการเสื่อมถอยตามธรรมชาติ ผิวหนังบริเวณเปลือกตาเกิดการยืดตัวและหย่อนคล้อย ทำให้เปลือกตาบนตกลงมาปิดตาดำมากขึ้น ผู้สูงอายุจึงมักมีอาการตาปรือมากกว่าคนวัยหนุ่มสาวนั่นเอง
3. กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตามีอาการอ่อนแรง ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่ ตาเปิดไม่โต และมองเห็นตาดำได้ไม่ครบวง ภาวะนี้อาจเป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลังก็ได้ และมีความรุนแรงที่แตกต่างกัน ตั้งแต่อาการเล็กน้อยที่แทบสังเกตไม่เห็น ไปจนถึงอาการรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิต
4. ผลข้างเคียงจากการทำตาสองชั้นไม่เหมาะสม
การทำตาสองชั้น อาจส่งผลให้เกิดอาการตาปรือได้ หากการผ่าตัดทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อยกเปลือกตา หรือทำให้เกิดพังผืดที่มากเกินไป โดยเฉพาะถ้าชั้นตาที่ได้มีลักษณะหนาเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักในการลืมตา และอาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงลงในระยะยาว ส่งผลให้ตาดูปรือและมีลักษณะเหมือนง่วงนอน ผู้ที่มีปัญหานี้มักต้องได้รับการแก้ตา จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับแก้ชั้นตาให้เหมาะสม
5. มีพฤติกรรมทำร้ายดวงตา หรือเคยได้รับบาดเจ็บที่ดวงตามาก่อน
พฤติกรรมบางอย่างสามารถส่งผลให้เกิดตาปรือได้ เช่น การขยี้ตาอย่างรุนแรงเป็นประจำ การอยู่ในสภาวะที่ทำให้เกิดการระคายเคืองดวงตา การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานติดต่อกัน หรือการใช้สายตามากเกินไป ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อตาเกิดความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ การได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาจากอุบัติเหตุต่างๆ ก็สามารถส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อรอบดวงตา ทำให้เกิดอาการตาปรือได้เช่นกัน
ตาปรือ ตาง่วงนอน สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด

การแก้ไขอาการตาปรือ ตาง่วงนอน สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ
สำหรับกรณีที่มีอาการเล็กน้อย อาจรักษาได้ด้วยการฉีดโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือโบท็อกซ์ เพื่อยกบริเวณหางคิ้ว หรือทำเลเซอร์กระชับบริเวณหางตา
แต่สำหรับผู้ที่มีอาการตาปรือมาก การผ่าตัดจะเป็นทางเลือกที่ได้ผลดีที่สุด
ตัวอย่างการผ่าตัดแก้ไขตาปรือ
- การผ่าตัดยกหางตาใต้คิ้ว : เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกโดยเฉพาะบริเวณหางตา แพทย์จะผ่าตัดตัดหนังตาส่วนที่หย่อนคล้อยออก และดึงหนังตาส่วนที่เหลือขึ้นไปเพื่อให้หนังตาตึง
- การผ่าตัดตาสองชั้น : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขตาปรือพร้อมกับสร้างชั้นตาใหม่ให้ชัดเจนขึ้น สามารถทำควบคู่กับการเเก้กล้ามเนื้อตาอ่อนเเรงเทคนิคเเผลนอกได้ อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังไม่ให้ตัดหนังตาออกมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้คิ้วและตาชิดกันมากเกินไป
- การผ่าตัดยกคิ้ว : เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะคิ้วตกร่วมด้วย จำเป็นต้องยกคิ้วขึ้นก่อนเพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตก
- การผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง : แพทย์จะเปิดแผลตามรอยพับของชั้นตา หรือพลิกเปลือกตาและทำการผ่าตัดจากด้านใน เพื่อเข้าไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อตาให้มีแรงเปิดมากขึ้น
ข้อควรระวังในการผ่าตัดแก้ตาปรือ ตาง่วงนอน

การผ่าตัดแก้ไขตาปรือเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สิ่งสำคัญที่สุดคือการวินิจฉัยสาเหตุของการเกิดตาปรือให้ถูกต้อง เพื่อเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม ข้อควรระวังที่พบบ่อยคือ หลายคนเลือกที่จะแก้ไขด้วยการทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้แก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหาอย่างภาวะ Ptosis หรือกล้ามเนื้อยกเปลือกตาอ่อนแรง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงตามความคาดหวัง หรือในบางกรณีอาจทำให้อาการแย่ลง เป็นต้น
แก้ปัญหาตาปรือ ตาง่วงนอน โดยจักษุแพทย์ ที่โคอาคลินิก

อาการตาปรือ ตาง่วงนอน แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ ในบางกรณีที่อาการรุนแรง อาจส่งผลต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิตได้ สาเหตุของตาปรือมีหลากหลาย ตั้งแต่พันธุกรรม ความเสื่อมตามวัย กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือการได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา การรักษาจึงต้องพิจารณาตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ที่โคอาคลินิก เราเป็นคลินิกทำตาที่ให้การดูแลโดยด้วยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการดูแลแบบองค์รวม เพื่อให้คุณได้ดวงตาที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และมั่นใจในทุกการมอง สามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @koaclinic ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
