
อาการ ตาบวมข้างเดียว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความกังวลใจให้กับหลายคน เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ ตาบวมข้างเดียว อันตรายไหม และมีวิธีการรักษา รวมถึงการป้องกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถดูแลดวงตาได้อย่างถูกต้อง
อาการตาบวมข้างเดียวเป็นอย่างไร
ตาบวมข้างเดียว หรือที่เรียกว่าอาการเปลือกตาบวมข้างเดียว เป็นภาวะที่เปลือกตาเกิดการบวมขึ้นจากการคั่งของน้ำหรือการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณรอบดวงตา โดยอาจมีอาการร่วมด้วย เช่น บวมแดง รู้สึกปวด หรือระคายเคือง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นอาการชั่วคราว แต่หากมีอาการรุนแรงหรือบวมไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
ตาบวมข้างเดียวเกิดจากอะไร
อาการ ตาบวมข้างเดียว เกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ภาวะที่ไม่อันตรายไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง สาเหตุที่พบได้บ่อยมีดังนี้
1. ตากุ้งยิง
อาการ ตาบวมข้างเดียว ที่พบได้บ่อยที่สุดคือตากุ้งยิง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ต่อมไขมันในเปลือกตา ทำให้เกิดการอักเสบ เป็นตุ่มฝีหรือหัวหนอง รู้สึกเจ็บปวดและระคายเคือง อาการนี้สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้ ดังนั้นการรักษาความสะอาดบริเวณดวงตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ
2. เยื่อบุตาอักเสบ
เยื่อบุตาอักเสบคือการติดเชื้อที่เยื่อบุตาซึ่งเป็นเยื่อที่คลุมอยู่ด้านในเปลือกตาและผิวด้านหน้าของลูกตา ซึ่งอาจทำให้ ตาบวมข้างเดียว มีอาการตาแดง น้ำตาไหล หรือมีขี้ตา โดยสาเหตุอาจมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ
3. ขยี้ตา
การขยี้ตาเป็นประจำ หรือการขยี้ตาอย่างรุนแรงอาจทำให้หลอดเลือดฝอยบริเวณเปลือกตาเกิดความเสียหาย จนน้ำเหลืองหรือเลือดรั่วซึมออกมา ทำให้เกิดอาการบวมและอาจเกิดรอยคล้ำรอบดวงตาได้ และยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อจนเกิดอาการอักเสบตามมา
4. โรคตาไทรอยด์หรือโรคเกรฟส์ (Graves’ Disease)
ภาวะภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติจนไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้เกิดการอักเสบของดวงตา ทำให้ใต้ตาบวม มีอาการตาโปน ตาปรือ และรู้สึกระคายเคือง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ ตาบวมข้างเดียว ได้
5. โรคมะเร็งที่ตาหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในตา
แม้จะเป็นสาเหตุที่พบได้น้อย แต่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งที่ตาหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในตาก็สามารถทำให้บริเวณรอบดวงตาบวมได้ หากอยู่ในระยะที่รุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นได้
6. ร้องไห้หนัก
การร้องไห้เป็นเวลานานทำให้เลือดและของเหลวมาเลี้ยงบริเวณรอบดวงตาเยอะขึ้น จนเกิดการสะสมของเหลวและทำให้ ตาบวมข้างเดียว หรือบวมทั้งสองข้างได้ แม้จะเป็นอาการชั่วคราวแต่ก็สามารถสร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
7. ผ่าตัดศัลยกรรมตา
อาการบวมเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการ ทำตาสองชั้น หรือ แก้ตา อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเองภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่หาก ตาบวมข้างเดียว เป็นเวลานานกว่าปกติ อาจบ่งบอกถึงปัญหาในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการแก้ไข
ตาบวมข้างเดียวอันตรายไหม แบบไหนควรรีบพบแพทย์

โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการ ตาบวมข้างเดียว มักจะหายไปเองได้ แต่หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
- ตาบวม ติดต่อกันนานเกิน 2 วัน
- มีก้อนแข็ง หรือหนองที่เปลือกตา
- มีอาการปวดตาหรือเจ็บบริเวณที่บวมอย่างรุนแรง
- มีขี้ตาสีเขียวหรือสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
- การมองเห็นแย่ลง เช่น มองเห็นไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน หรือมีปัญหาในการกลอกตา
- มีไข้ขึ้นสูง ปวดหัว หรือมีอาการสับสนร่วมด้วย
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น การติดเชื้อที่ลุกลาม หรือปัญหาการมองเห็นในระยะยาว
วิธีรักษาตาบวมข้างเดียว
การรักษาอาการ ตาบวมข้างเดียว จะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ เช่น
- การประคบเย็น : เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการช่วยลดอาการบวม โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นหรือเจลเย็นประคบที่ดวงตาครั้งละ 10-15 นาที
- การประคบอุ่น : ในกรณีที่เกิดจากตากุ้งยิง การประคบอุ่นจะช่วยลดอาการอักเสบและทำให้หนองระบายออกมาได้ง่ายขึ้น โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบครั้งละ 10-15 นาที วันละหลายครั้ง
- ทำความสะอาดดวงตา : ล้างทำความสะอาดดวงตาอย่างอ่อนโยนเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา : พยายามไม่ขยี้ตาหรือสัมผัสดวงตามากเกินไป เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง
- การใช้ยา : แพทย์อาจสั่งจ่ายยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ
- การผ่าตัด : หาก ตาบวมข้างเดียว อย่างถาวรหรือเกิดจากภาวะ หนังตาตก, ตาปรือ, กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การผ่าตัด แก้ตา อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหานี้
วิธีป้องกันอาการตาบวมข้างเดียว

การป้องกันอาการ ตาบวมข้างเดียว ที่ดีที่สุดคือการดูแลดวงตาให้สะอาดและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
- รักษาความสะอาด : ล้างหน้าและทำความสะอาดเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาให้หมดจดก่อนนอนทุกวัน
- งดการขยี้ตา : พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ตาโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการอักเสบ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ : ควรเลือกใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตาที่สะอาดและเปลี่ยนเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
- ดูแลสุขภาพ : ดื่มน้ำให้เพียงพอ, ลดการทานอาหารรสเค็มจัด และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งจะช่วยลดการคั่งของน้ำบริเวณรอบดวงตาได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่อง ร่องน้ำตา หรือ เบ้าตาลึก ที่อาจส่งผลต่อความสวยงามของดวงตา การดูแลสุขภาพโดยรวมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตาบวมข้างเดียว
ตาบวมข้างเดียวกี่วันถึงจะหาย
อาการบวมจะหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสาเหตุ หากเกิดจากการร้องไห้หรือภูมิแพ้อาจหายได้ใน 1-2 วัน แต่หากเกิดจากการติดเชื้ออาจใช้เวลา 7-10 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วัน ควรรีบพบแพทย์
ตื่นเช้ามาตาบวมข้างเดียวเกิดจากอะไร
อาจเกิดจากการนอนไม่พอ, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน, หรือการสะสมของของเหลวในร่างกายขณะนอนหลับ นอกจากนี้อาการภูมิแพ้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ ตาบวมข้างเดียว ในช่วงเช้าได้
การประคบเย็นที่ตาช่วยเรื่องอะไร
การประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมและอาการปวดลงได้ เพราะความเย็นจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้เลือดออกน้อยลงและลดการคั่งของของเหลวบริเวณนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปบทความ
อาการ ตาบวมข้างเดียว อาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น การติดเชื้อ, ภาวะภูมิแพ้, หรือแม้แต่การขยี้ตา การดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยการประคบเย็นและการรักษาความสะอาดสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นอาการบวม, ตาชั้นเดียว, หนังตาตก หรือต้องการ ทำตาสองชั้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจ KOA Clinic เป็น คลินิกทำตา ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาดวงตาของคุณอย่างตรงจุด ด้วยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เราพร้อมที่จะช่วยให้ดวงตาของคุณกลับมาสวยงามและมีสุขภาพดีอีกครั้ง
