ถามหมอได้เลยครับ
icon-phone
  1. หน้าแรก
  2. บทความและข่าวสาร
  3. ศัลยกรรมตามีกี่แบบ? เลือกแบบไหนให้ดวงตาสวยตรงใจ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

ศัลยกรรมตามีกี่แบบ? เลือกแบบไหนให้ดวงตาสวยตรงใจ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

เขียนเมื่อ: 15/5/2025
ศัลยกรรมตามีกี่แบบ

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ และยังเป็นจุดสำคัญที่สร้างความประทับใจแรกเห็น หลายคนจึงใฝ่ฝันอยากมีดวงตาที่สวยงาม สดใส ดูมีเสน่ห์ การศัลยกรรมตาจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แต่คำถามที่พบบ่อยคือ ศัลยกรรมตามีกี่แบบ แล้วจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของตนเองมากที่สุด บทความนี้ KOA Clinic จะพาคุณไปทำความเข้าใจประเภทของการศัลยกรรมตาต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เปลี่ยนแปลงดวงตาให้สวยงามและแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างตรงจุด

Table of Contents

ศัลยกรรมตา ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่คือการแก้ปัญหา

ก่อนจะเจาะลึกถึงประเภทของการศัลยกรรมตา สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่าการศัลยกรรมตานั้นมีมิติที่ลึกซึ้งกว่าเพียงการเสริมความงาม แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างรอบดวงตาที่อาจส่งผลต่อการมองเห็นและบุคลิกภาพโดยรวม การตัดสินใจทำศัลยกรรมตาจึงควรพิจารณาจากความจำเป็นและเป้าหมายที่ชัดเจน

ศัลยกรรมตาคืออะไร

ศัลยกรรมตา คือ การผ่าตัด หรือหัตถการทางการแพทย์ที่กระทำต่อบริเวณดวงตาและโครงสร้างรอบดวงตา ซึ่งรวมถึงเปลือกตา กล้ามเนื้อตา และเนื้อเยื่อต่างๆ วัตถุประสงค์หลักของการศัลยกรรมตามีสองด้าน คือ

  1. เพื่อความสวยงาม (Cosmetic Eye Surgery) : เช่น การปรับรูปทรงตาให้ดูโตขึ้น มีชั้นตาที่ชัดเจน หรือลดริ้วรอย
  2. เพื่อการแก้ไขปัญหาทางการแพทย์ (Reconstructive Eye Surgery) : เช่น การรักษาภาวะหนังตาตกที่บดบังการมองเห็น หรือการแก้ไขความผิดปกติของเปลือกตาแต่กำเนิดหรือจากอุบัติเหตุ 

การเลือกวิธีการศัลยกรรมจะขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยจักษุแพทย์หรือศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะสม

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมตา?

การศัลยกรรมตาเหมาะสำหรับบุคคลหลากหลายกลุ่มที่มีปัญหาหรือความต้องการแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาตาชั้นเดียว หรือชั้นตาหลบใน ต้องการให้มีชั้นตาที่ชัดเจนขึ้น
  • ผู้ที่มีภาวะหนังตาตก หย่อนคล้อยตามวัย หรือจากพันธุกรรม ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส หรือบดบังการมองเห็น
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อเปลือกตาอ่อนแรง ส่งผลให้ดูเหมือน ตาปรือ ตลอดเวลา
  • ผู้ที่มีปัญหาตาไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด หรือชั้นตาไม่สมดุล
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหารูปทรงตา เช่น ตาเล็ก ตาชี้ขึ้นหรือตกเกินไป
  • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและมีอายุ
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขตาสามชั้น หรือชั้นตาซ้อนกันหลายชั้นไม่สวยงาม
  • ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกบริเวณเปลือกตาหรือใต้ตา

ประโยชน์ของการทำศัลยกรรมตาที่คุณอาจไม่เคยรู้

นอกเหนือจากการมีดวงตาที่สวยงามขึ้นตามความต้องการแล้ว การศัลยกรรมตายังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น

  • เสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพ : ดวงตาที่สวยงามสมส่วนช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูดีขึ้น ส่งผลต่อความมั่นใจในการเข้าสังคมและการทำงาน
  • ปรับปรุงการมองเห็น : ในกรณีของหนังตาตกที่บดบังการมองเห็น หรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การศัลยกรรมจะช่วยให้ลานสายตากว้างขึ้น มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
  • ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น : การแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ริ้วรอย หรือความหย่อนคล้อยรอบดวงตา ช่วยให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและอ่อนกว่าวัย
  • แก้ไขความไม่สมดุลของใบหน้า : ช่วยปรับโครงสร้างรอบดวงตาให้มีความสมดุลมากขึ้น ส่งผลดีต่อองค์ประกอบโดยรวมของใบหน้า

เจาะลึก! ศัลยกรรมตามีกี่แบบ แต่ละแบบช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?

เจาะลึกศัลยกรรมตาแต่ละแบบ

เมื่อเข้าใจพื้นฐานของการศัลยกรรมตาแล้ว คำถามสำคัญต่อมาคือ ศัลยกรรมตามีกี่แบบ และแต่ละแบบนั้นช่วยแก้ไขปัญหาใดได้บ้าง การเลือกประเภทของการศัลยกรรมที่ถูกต้องจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง ซึ่งศัลยกรรมตาที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป มีดังนี้:

1. ศัลยกรรมตาสองชั้น (Double Eyelid Surgery)

การทำตาสองชั้น เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด มุ่งเน้นการสร้างรอยพับบนเปลือกตาให้เกิดเป็นชั้นตาที่ชัดเจนและสวยงาม ช่วยให้ดวงตาดูโต กลม และมีมิติมากขึ้น เทคนิคที่ใช้มีหลากหลาย เช่น แบบกรีด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันเปลือกตามากหรือหนังตาหย่อนคล้อย สามารถแบ่งเป็นกรีดสั้น หรือกรีดยาวเพื่อตัดหนังตาส่วนเกินและไขมันออก และแบบเย็บ (Suture Technique) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาบาง ไขมันไม่มาก และไม่หย่อนคล้อยมากนัก โดยเป็นการเย็บจุดเล็กๆ เพื่อสร้างรอยพับของชั้นตา วิธีนี้ช่วยแก้ปัญหาตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน หรือชั้นตาไม่เท่ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ศัลยกรรมเปิดหัวตา และ/หรือ เปิดหางตา 

ศัลยกรรมเปิดหัวตา (Epicanthoplasty) เป็นการผ่าตัดตกแต่งเนื้อที่คลุมบริเวณหัวตา (Mongolian Fold) ทำให้ดวงตาดูยาวเรียวและกลมโตขึ้น ลดระยะห่างระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง ส่วนศัลยกรรมเปิดหางตา (Lateral Canthoplasty) เป็นการผ่าตัดขยายหางตาให้ยาวขึ้น ทำให้ดวงตาดูเฉี่ยวคมหรืออ่อนหวานขึ้นได้ตามการออกแบบของแพทย์ ทั้งสองหัตถการนี้มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้นเพื่อผลลัพธ์ดวงตาที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีหัวตาปิด ตาดูสั้น หรือต้องการให้ดวงตาดูมีมิติและสดใสมากขึ้น

3. ศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

ปัญหารอบดวงตาที่สำคัญคือภาวะหนังตาตก ซึ่งอาจเกิดจากผิวหนังเปลือกตาหย่อนคล้อยตามวัย หรือภาวะ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ที่ทำให้เปลือกตาไม่สามารถเปิดได้เต็มที่ การศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก (Blepharoplasty) จะทำการตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินที่เปลือกตาบนออก ในขณะที่การแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะมุ่งเน้นการผ่าตัดเพื่อปรับระดับหรือเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตา ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ดวงตาเปิดได้กว้างขึ้น มองเห็นชัดเจน และดูสดใส ลดอาการ ตาปรือ ได้อย่างมีนัยสำคัญ

4. ศัลยกรรมถุงใต้ตา

ถุงใต้ตาเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย เกิดจากการสะสมของไขมันหรือความหย่อนคล้อยของผิวหนังใต้ตา ศัลยกรรมแก้ถุงใต้ตาสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การผ่าตัดจากด้านในเปลือกตาล่าง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินแต่ผิวหนังยังไม่หย่อนคล้อยมากนัก ทำให้ไม่มีรอยแผลเป็นภายนอก หรือการผ่าตัดเปิดแผลที่ขอบตาล่าง เพื่อกำจัดไขมันและตัดผิวหนังส่วนเกินออก ทำให้ผิวใต้ตาเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น

5. ศัลยกรรมยกคิ้ว หรือแก้ไขเบ้าตาลึก

ศัลยกรรมยกคิ้ว (Sub-brow Lift) เป็นเทคนิคที่ช่วยยกกระชับผิวหนังบริเวณหางตาและเปลือกตาบนที่หย่อนคล้อย โดยซ่อนรอยแผลไว้ใต้แนวคิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกบริเวณหางตา หรือคิ้วตก ส่วนการแก้ไขเบ้าตาลึก (Sunken Eyes Correction) มักใช้วิธีการเติมไขมันเบ้าตาด้วยไขมันตนเอง (Fat Grafting) หรือสารเติมเต็ม (Fillers) เพื่อเติมเต็มบริเวณเบ้าตาที่ดูโหลลึก ทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบและอ่อนเยาว์ขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยคืนความสดใสและมิติให้กับดวงตาและใบหน้าโดยรวม

การทำศัลยกรรมตาหลายแบบร่วมกัน ทำได้หรือไม่?

เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย คำตอบคือ “ทำได้” ในหลายกรณี การทำศัลยกรรมตาหลายอย่างพร้อมกัน เช่น การทำตาสองชั้นร่วมกับการเปิดหัวตา หรือการแก้ไขหนังตาตกร่วมกับการกำจัดถุงใต้ตา สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีและครอบคลุมปัญหารอบดวงตาได้ในคราวเดียว 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะทำศัลยกรรมใดบ้างร่วมกันนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยจะพิจารณาจากโครงสร้างใบหน้า ปัญหาของคนไข้ และความเหมาะสมทางกายภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุด การทำหลายหัตถการพร้อมกันยังช่วยลดระยะเวลาพักฟื้นโดยรวมเมื่อเทียบกับการทำทีละอย่าง

ขั้นตอนการศัลยกรรมตาโดยทั่วไปเป็นอย่างไร

เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำศัลยกรรมตา ขั้นตอนโดยทั่วไปมักประกอบด้วย

  • การปรึกษาแพทย์ : แพทย์จะสอบถามความต้องการ ประเมินปัญหา และโครงสร้างรอบดวงตา พร้อมทั้งอธิบายแผนการรักษา วิธีการผ่าตัด ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่คาดหวัง
  • การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด : แพทย์จะให้คำแนะนำในการเตรียมตัว เช่น การงดยาบางชนิด งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • วันผ่าตัด : ทำความสะอาดบริเวณที่จะผ่าตัด ให้ยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบ (ขึ้นอยู่กับประเภทการผ่าตัดและความซับซ้อน) จากนั้นแพทย์จะทำการผ่าตัดตามแผนที่วางไว้
  • การพักฟื้นหลังผ่าตัด : แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เช่น การประคบเย็น การใช้ยา และการทำความสะอาดแผล
  • การนัดติดตามผล : แพทย์จะนัดมาตรวจดูอาการ ตัดไหม (ถ้ามี) และติดตามผลการรักษาเป็นระยะ

ในส่วนของการแก้ตาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างคนไข้และแพทย์ในทุกขั้นตอน

เตรียมตัวก่อน-ดูแลหลังศัลยกรรมตาอย่างไรให้ผลลัพธ์ปัง ไม่มีพัง

การเตรียมตัวที่ดีก่อนการผ่าตัดและการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีหลังการผ่าตัดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์และความปลอดภัยของการศัลยกรรมตา เพื่อให้แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และได้ดวงตาที่สวยงามสมใจ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมตา

  • แจ้งประวัติสุขภาพ ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาทุกชนิดที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
  • งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, วิตามินอี, น้ำมันตับปลา, แปะก๊วย อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด หรือตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ในวันผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ถอดง่าย ไม่ควรแต่งหน้าหรือใส่คอนแทคเลนส์
  • ควรมีผู้ดูแลและขับรถรับส่งในวันผ่าตัด เนื่องจากอาจมีอาการตาพร่ามัวหลังผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดและข้อควรระวัง

  • ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมและช้ำ จากนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นเพื่อลดรอยช้ำ
  • นอนหมอนสูงในช่วง 3-7 วันแรก เพื่อช่วยลดอาการบวม
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ หรือยาฆ่าเชื้อ
  • ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำโดยตรงจนกว่าจะได้รับอนุญาต
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตา การก้มหน้านานๆ หรือการออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
  • งดการแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตาและงดใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าแผลจะหายดีและแพทย์อนุญาต
  • สวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอกเพื่อป้องกันแสงแดดและฝุ่นละออง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยในการฟื้นตัวของร่างกาย
  • มาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการและตัดไหม (ถ้ามี)

เลือกคลินิกทำศัลยกรรมตาที่ไหนดี? เช็กลิสต์ความปลอดภัย มั่นใจได้ผลลัพธ์ตามที่หวัง

เลือกคลินิกทำศัลยกรรมตาที่ไหนดี

การเลือกคลินิกทำตาที่เหมาะสมและได้มาตรฐานเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่พึงพอใจและมีความปลอดภัยสูงสุด เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อน การตัดสินใจจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์

ปัจจัยแรกและสำคัญที่สุดคือความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ ควรเลือกแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา หรือศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์สูงในการทำศัลยกรรมตาประเภทที่คุณสนใจ ตรวจสอบวุฒิบัตร ใบอนุญาต และผลงานที่ผ่านมาของแพทย์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง

มาตรฐานของคลินิกและห้องผ่าตัด

คลินิกที่เลือกควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข มีความสะอาด ปลอดภัย และมีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยครบครัน ห้องผ่าตัดควรได้มาตรฐานสากล มีระบบปลอดเชื้อที่เข้มงวด เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และมั่นใจได้ในความปลอดภัยตลอดกระบวนการผ่าตัด

การให้คำปรึกษาอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา

แพทย์ที่ดีควรให้เวลาในการปรึกษาอย่างเต็มที่ สามารถอธิบายรายละเอียดของปัญหา วิธีการรักษาทางเลือกต่างๆ รวมถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ควรเปิดโอกาสให้คุณซักถามข้อสงสัยได้อย่างเต็มที่ และไม่ควรกดดันให้ตัดสินใจทำศัลยกรรม

รีวิวและความน่าเชื่อถือ

การตรวจสอบรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการตัดสินใจ ควรมองหารีวิวจากหลายแหล่งที่น่าเชื่อถือ และพิจารณาผลงานก่อน-หลังทำ (Before-After Photos) ของเคสที่มีลักษณะปัญหาใกล้เคียงกับคุณ นอกจากนี้ ความน่าเชื่อถือของคลินิก การบริการ และการดูแลเอาใจใส่คนไข้ทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

เลือกศัลยกรรมตาที่ใช่ เพิ่มความมั่นใจให้ดวงตาคู่สวย ที่ KOA Clinic

การทำความเข้าใจว่า ศัลยกรรมตามีกี่แบบ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเดินทางสู่ดวงตาคู่สวยในอุดมคติ การเลือกประเภทศัลยกรรมที่เหมาะสมที่สุดนั้นจำเป็นต้องอาศัยการประเมินจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ปัญหา โครงสร้างรอบดวงตา และความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด ที่ KOA Clinic เราให้ความสำคัญกับการให้คำปรึกษาที่เป็นส่วนตัวและตรงจุด 

ทีมศัลยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ของเราพร้อมที่จะรับฟังความต้องการของคุณ และออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น การแก้ไขหนังตาตก หรือการปรับรูปทรงตาให้สมดุลกับใบหน้า ด้วยเทคนิคที่ทันสมัยและความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ในผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และเสริมสร้างความมั่นใจให้คุณอย่างแท้จริง หากคุณกำลังมองหาวิธีเปลี่ยนแปลงดวงตาให้สวยงามและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ลองเข้ามาปรึกษาเราที่ KOA Clinic ได้เลย

icon-share
แชร์หน้านี้ :

ช่องทางติดตามคลินิก

Koaclinic
Koaclinic
Koaclinic
Koaclinic
Koaclinic
เริ่มดูปัญหาของคุณที่นี่ ส่งข้อมูล ปรึกษาคุณหมอ