เมื่อกาลเวลาผ่านไป ดวงตาก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามวัย ปัญหาที่พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุคือภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุ ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ แต่ยังอาจบดบังการมองเห็นและทำให้เกิดอาการไม่สบายตาได้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขที่ถูกต้อง เพื่อให้ดวงตากลับมาสวยงามและสดใสอีกครั้ง
หนังตาตกในผู้สูงอายุ คืออะไร
หนังตาตกในผู้สูงอายุ คือภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเปลือกตาบนหย่อนคล้อยลงมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเสื่อมสภาพของผิวหนัง กล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบริเวณเปลือกตาตามธรรมชาติเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น โดยปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบข้างเดียวและสองข้าง และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
ประเภทของหนังตาตกในผู้สูงอายุ

ปัญหาหนังตาตกในผู้สูงอายุสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจแต่ละประเภทจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
หนังตาหย่อน (Dermatochalasis)
ภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุแบบหนังตาหย่อน (Dermatochalasis) เกิดจากการที่ผิวหนังและไขมันบริเวณเปลือกตาบนหย่อนคล้อยลงมา ปกติแล้วขอบเปลือกตาบนจะอยู่ในตำแหน่งที่ปกติ แต่จะมีผิวหนังส่วนเกินมากจนปิดบังชั้นตา หรืออาจทับลงมาจนบดบังการมองเห็น มักพบในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ผิวหนังบริเวณเปลือกตาเสื่อมสภาพจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดดหรือพฤติกรรมการขยี้ตาบ่อยๆ
หนังตาตกจากกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรง (Blepharoptosis)
หนังตาตกในผู้สูงอายุจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Blepharoptosis) คือภาวะที่ขอบเปลือกตาบนตกลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติอย่างชัดเจน โดยอาจบดบังตาดำบางส่วน ทำให้ดูเหมือนตาปรือตลอดเวลา สาเหตุหลักเกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานได้ไม่เต็มที่หรือเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย ซึ่งอาจเป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลังได้
สาเหตุที่ทำให้หนังตาตกในผู้สูงอายุ

อาการหนังตาตกในผู้สูงอายุสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากอายุที่เพิ่มขึ้นและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงปัจจัยด้านสุขภาพต่างๆ การทำความเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้สามารถป้องกันและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง
หนังตาตกจากการมีอายุที่มากขึ้น
เป็นสาเหตุหลักของหนังตาตกในผู้สูงอายุ โดยเมื่ออายุเพิ่มขึ้น พังผืดที่ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อตาจะเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อยกตาไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ อีกทั้งความยืดหยุ่นของผิวหนังและไขมันบริเวณรอบดวงตาก็ลดลง ทำให้เกิดภาวะหนังตาหย่อนคล้อยตามมา
หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด
ในบางรายอาจเกิดภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นมาตั้งแต่กำเนิด โดยมีสาเหตุจากกล้ามเนื้อตาที่ทำงานผิดปกติหรือพัฒนาไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เด็ก หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่ออายุมากขึ้นและกล้ามเนื้อตาเริ่มอ่อนแรงลงก็จะยิ่งทำให้ปัญหาเด่นชัดมากขึ้นจนอาจบดบังการมองเห็นอย่างรุนแรง
หนังตาตกจากน้ำหนักเกินเกณฑ์
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปสามารถเป็นสาเหตุของหนังตาตกในผู้สูงอายุได้ เนื่องจากมีการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาบน ทำให้หนังตามีน้ำหนักและหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง นอกจากนี้ น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นโดยรวม ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น
หนังตาตกจากอุบัติเหตุรอบดวงตา
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บโดยตรง หรือการผ่าตัดที่ทำให้กล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทได้รับความเสียหาย สามารถส่งผลให้เกิดภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ การขยี้ตาอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสมกับเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อตาจนเกิดความอ่อนแรงได้
หนังตาตกจากโรค
โรคบางชนิดสามารถส่งผลให้เกิดหนังตาตกในผู้สูงอายุได้ เช่น โรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงโรคทางระบบประสาทสมองที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อรอบดวงตาทำงานผิดปกติ เช่น โรคเบาหวาน หรือการติดเชื้อบางชนิด ซึ่งอาจทำให้เปลือกตาทำงานได้ไม่ปกติจนเกิดภาวะตกลงมา
หนังตาตกจากการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างสามารถเร่งให้เกิดหนังตาตกในผู้สูงอายุเร็วขึ้นได้ เช่น การใช้สายตามากเกินไป นอนหลับไม่เพียงพอ การขยี้ตาแรงๆ หรือการใส่คอนแทคเลนส์แบบแข็งเป็นเวลานาน นอกจากนี้ การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ยังทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาเสื่อมสภาพเร็ว
หนังตาตกจากระบบประสาททำงานผิดปกติ
ภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุที่เกิดจากระบบประสาททำงานผิดปกติ อาจเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทของกล้ามเนื้อตาทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากโรคทางระบบประสาท เช่น โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia Gravis) หรือโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองกดทับเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อตาไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ
หนังตาตกจากการมีเนื้องอก
เนื้องอกที่เกิดขึ้นบริเวณเปลือกตาบน เช่น เนื้องอกที่ต่อมน้ำตา หรือก้อนไขมันบางชนิด สามารถเป็นสาเหตุของภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุได้เช่นกัน โดยก้อนเนื้อเหล่านี้จะไปเพิ่มน้ำหนักให้กับเปลือกตา หรือไปกดทับกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาท ส่งผลให้เปลือกตาไม่สามารถยกขึ้นได้ตามปกติและเกิดอาการบวมร่วมด้วย
หนังตาตกจากการผ่าตัดบริเวณรอบดวงตา
การผ่าตัดศัลยกรรมบริเวณรอบดวงตาที่เคยทำมาก่อน เช่น การทำตาสองชั้น ที่มีการตัดผิวหนังออกมากเกินไป หรือการผ่าตัดแก้ไขปัญหาอื่นๆ อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อตาหรือเนื้อเยื่อได้รับความเสียหาย ทำให้เกิดภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุตามมาได้ หากแผลผ่าตัดไม่หายสนิท หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดก็สามารถเป็นสาเหตุได้เช่นกัน
วิธีป้องกันหนังตาตกในผู้สูงอายุ
การป้องกันหนังตาตกในผู้สูงอายุ สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพของผิวหนังและกล้ามเนื้อรอบดวงตา
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา : การขยี้ตาหรือการเช็ดตาอย่างรุนแรงเป็นประจำจะทำให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาเสียความยืดหยุ่นและหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ
- พักสายตา : หากต้องใช้สายตาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน ควรพักสายตาทุก 20-30 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลายและลดความเมื่อยล้า
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง ผิวหนังรอบดวงตาจะได้รับการบำรุงและคงความยืดหยุ่นได้ดีขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอี จะช่วยบำรุงผิวหนังและรักษาคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังรอบดวงตาแข็งแรงและไม่หย่อนคล้อยง่าย
- ป้องกันแสงแดด : แสงแดดคือตัวการทำลายผิวและคอลลาเจน ควรใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องออกแดดเพื่อปกป้องผิวหนังบริเวณรอบดวงตาจากรังสี UV
วิธีแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ
หากเกิดภาวะหนังตาตกในผู้สูงอายุแล้ว การแก้ไขที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยการแก้ไขปัญหาสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
- การผ่าตัดแก้ไขหนังตาหย่อน (Dermatochalasis) : เป็นการผ่าตัดเพื่อนำผิวหนังส่วนเกินและไขมันบริเวณเปลือกตาออก จากนั้นเย็บให้หนังตากระชับขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้ดวงตาดูกระจ่างใสขึ้นและไม่บดบังการมองเห็น
- การผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Blepharoptosis) : หากสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อปรับความยาวหรือเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อยกเปลือกตา เพื่อให้ดวงตาเปิดได้กว้างขึ้นและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- การทำตาสองชั้นร่วมด้วย : ในบางกรณีที่มีภาวะตาชั้นเดียว และหนังตาตก การผ่าตัดเพื่อสร้างตาสองชั้นสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนังตาตกและเพิ่มความสวยงามไปพร้อมกันได้ ซึ่งอาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย
ข้อควรระวังในการผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุ
การผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุมีความละเอียดอ่อนและต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้ป่วยเป็นหลัก ดังนั้นการเตรียมตัวและข้อควรระวังจึงมีความสำคัญมาก
- แจ้งโรคประจำตัว : ผู้ป่วยควรแจ้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทาน และอาหารเสริมให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง : ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพราะการผ่าตัดหนังตาเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถแก้ปัญหาตาปรือได้อย่างตรงจุด ควรทำการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาร่วมด้วย
- มีภาวะเบ้าตาลึก : ผู้สูงอายุบางรายอาจมีภาวะเบ้าตาลึกร่วมกับหนังตาตก ซึ่งการผ่าตัดต้องอาศัยเทคนิคพิเศษ เช่น การเติมไขมันบริเวณเบ้าตา เพื่อให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปัญหาร่องน้ำตา : หากมีปัญหาร่องน้ำตาหรือความผิดปกติบริเวณรอบดวงตาอื่นๆ ควรแจ้งแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่ครอบคลุม
- ภาวะคิ้วตก : การผ่าตัดทำตาสองชั้นในผู้ที่มีภาวะคิ้วตกอาจทำให้พื้นที่ระหว่างคิ้วกับตาดูแคบลง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการยกคิ้วหรือแก้ไขด้วยวิธีอื่นๆ ร่วมด้วย
การเตรียมตัวก่อนผ่าผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุ
การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การผ่าตัดแก้ตาผ่านไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด : เข้าพบจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจประเมินอย่างละเอียดและพูดคุยถึงความต้องการและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- แจ้งโรคและยา : แจ้งโรคประจำตัวและยาที่รับประทานให้แพทย์ทราบโดยละเอียด รวมถึงยาที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดอาหารเสริมและยาบางชนิด : หยุดรับประทานอาหารเสริม วิตามิน และยาบางชนิดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด
- งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ : งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุ
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลหายเร็ว ลดอาการบวมช้ำ และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ประคบเย็น : ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาในช่วง 1-3 วันแรกหลังการผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวมและอาการฟกช้ำ
- ยกศีรษะสูง : ควรนอนหนุนหมอนสูงในช่วง 1-2 วันแรก เพื่อช่วยลดอาการบวม
- ประคบอุ่น : หลังจากผ่านไป 3 วัน ให้เปลี่ยนมาประคบอุ่นเพื่อช่วยสลายลิ่มเลือดและลดอาการบวมช้ำที่ยังเหลืออยู่
- ห้ามโดนน้ำ : หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ : ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และมาพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจติดตามผลการรักษา
แก้ปัญหาหนังตาตกในผู้สูงอายุที่ไหนดี?
การเลือกคลินิกทำตาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาหนังตาตกในผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องอาศัยประสบการณ์ของจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง KOA Clinic คลินิกทำตาใจกลางกรุงเทพ (สุขุมวิท–อโศก) เรามีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมรอบดวงตาโดยเฉพาะ ดำเนินการผ่าตัดโดยทีมจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่สามารถวิเคราะห์และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการแก้ไขที่ตรงจุดและปลอดภัย
สรุปบทความ
ปัญหาหนังตาตกในผู้สูงอายุ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นตามวัย แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยการผ่าตัดแก้ตาไม่เพียงช่วยให้ดวงตากลับมาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ยังช่วยปรับปรุงการมองเห็นและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและต้องการการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ KOA Clinic พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิด ด้วยทีมจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาดวงตาโดยเฉพาะ พร้อมออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ